นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ อธิบายถึงวิธีการที่ บริษัท โคเด็กซ์ ดิจิตอล พาร์ทเนอร์ จำกัด (“บริษัท”) เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลที่ผู้ใช้บริการได้ให้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์ codex.co.th
นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ มีผลใช้บังคับกับการให้บริการของบริษัทเท่านั้น ไม่มีผลใช้บังคับ กับ แอปพลิเคชั่นและบริการหรือเว็บไซต์อื่นๆ ที่อาจมีการเชื่อมต่อ ซึ่งเป็นของบุคคลภายนอก ที่บริษัทไม่มี อำนาจ ควบคุม และเป็นส่วนที่ผู้ใช้บริการต้องทำความตกลง และศึกษาเกี่ยวกับนโยบายข้อมูลส่วน บุคคล สำหรับ การใช้แอปพลิเคชั่น บริการ หรือเว็บไซต์ดังกล่าวแยกต่างหาก
หากผู้ใช้บริการไม่ตกลงตามเงื่อนไขของนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ หรือฉบับแก้ไขอื่นๆ บริษัท สงวนสิทธิที่จะห้าม หรือไม่อนุญาตให้ผู้ใช้บริการดังกล่าวใช้บริการของบริษัท เนื่องจากการประมวล ผลข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้นโยบายฉบับนี้ มีความผลจำเป็นโดยตรงต่อ การปฏิบัติตามหน้าที่ให้ บริการโดยบริษัทแก่ ผู้ใช้บริการ ทั้งนี้ การที่ผู้ใช้บริการยังคงใช้บริการของบริษัทอยู่ ผู้ใช้บริการ ดังกล่าว จะถือว่า ยอมรับนโยบายฉบับนี้เสมอ
บริษัทอาจปรับปรุงนโยบายฉบับนี้ตามแต่ละระยะเวลา เพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติและกฎหมาย ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง และให้สอดคล้องกับการให้บริการต่างๆของบริษัท ทั้งนี้ บริษัทจะแจ้งให้ผู้ใช้ บริการทราบถึงการเปลี่ยนแปลงด้วยการประกาศนโยบายฉบับปรับปรุงใหม่ให้ผู้ใช้บริการทราบ โดย นโยบาย นั้นจะถือว่ามีผลบังคับใช้ เมื่อบริษัทได้ประกาศ
ลักษณะข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทประมวลผลในการให้บริการของบริษัท
ในการให้บริการ บริษัทจะเก็บรวบรวม และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล จากการที่ผู้ใช้บริการดำเนิน การผ่านระบบการให้บริการ ดังต่อไปนี้
- ข้อมูลที่บ่งชี้ตัวตนโดยตรง อาทิ ชื่อ อายุ สัญชาติ เพศ วันเกิด
- ข้อมูลการติดต่อ อาทิ ที่อยู่ สถานที่ติดต่อ เบอร์โทร อีเมล
- ข้อมูลการใช้บริการ อาทิ ชื่อบัญชีผู้ใช้ รหัสผ่าน ประวัติการทำธุรกรรมต่างๆ ที่ผู้ใช้บริการ ดำเนินการ รวมถึง ความสนใจของต่างๆของผู้ใช้บริการ
- ข้อมูลทางเทคนิคในการระบุตัวตน อาทิ หมายเลขระบุตำแหน่งคอมพิวเตอร์ (IP Address) ข้อมูลการใช้งาน การตั้งค่าและการเชื่อมต่อบราวเซอร์ของอุปกรณ์ที่ผู้ใช้บริการ ใช้ในการใช้ บริการของบริษัท
วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูล
เพื่อทำให้เว็บไซต์ codex.co.th และบริการของบริษัท สามารถให้ผู้ใช้งาน ใช้งานได้หรือเพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ตามกฎหมายบริษัทจึงมีความจำเป็นจะต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานบางส่วน หากผู้ใช้งานไม่ให้บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลที่บริษัทร้องขอ บริษัทอาจจะไม่สามารถจัดเตรียมผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ผู้ใช้งานร้องขอได้ ข้อมูลบางส่วนที่บริษัทได้เก็บรวบรวมนั้นได้มาจากผู้ใช้งานโดยตรงผ่านเว็บไซต์ codex.co.th สื่อสังคมออนไลน์ อีเมล ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้เก็บรวบรวมจากผู้ใช้งานอาจนำมาใช้สำหรับวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
- เพื่อสร้างและจัดการบัญชีผู้ใช้งาน
- เพื่อทำการและจัดการคำสั่งซื้อ
- เพื่อจัดส่งผลิตภัณฑ์หรือบริการ
- เพื่อปรับปรุงผลิตภัณฑ์หรือบริการให้ดียิ่งขึ้น
- เพื่อส่งข้อมูลการดูแลจัดการ
- เพื่อส่งข้อมูลการสื่อสารทางการตลาดหรือรายการส่งเสริมการขาย
- เพื่อตอบสนองต่อข้อสงสัยและนำเสนอการช่วยเหลือ
- เพื่อร้องขอข้อเสนอแนะ คำติชม หรือ การร้องเรียน
- เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น
- เพื่อโพสต์หรือประชาสัมพันธ์ความพึงพอใจของผู้ใช้งานที่มีเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท
- เพื่อบังคับใช้ข้อตกลงและเงื่อนไขและนโยบายต่าง ๆ
- เพื่อปกป้องจากผู้ใช้ที่ไม่ชอบและอันตราย
- เพื่อการให้บริการที่ กำหนดและระบุไว้สำหรับแต่ละเงื่อนไขการให้บริการของบริษัท
- เพื่อการยืนยันตัวตนและติดตามในการทำธุรกรรมต่างๆของผู้ใช้บริการ
- เพื่อการตรวจสอบเงื่อนไขการชำระเงิน ค่าบริการ
- เพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสารกับผู้ใช้บริการ
- เพื่อการวิเคราะห์ความสนใจ ของผู้ใช้บริการ
- เพื่อเสนอสิทธิประโยชน์หรือบริการ ตามความสนใจของผู้ใช้ บริการได้มากขึ้น
- เพื่อการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นระหว่างบริษัทและผู้ใช้บริการ
- เพื่อปฏิบัติตามข้อกฎหมาย และ ระเบียบบังคับใช้ของรัฐ เช่น การจัดทำเอกสารภาษี หัก ณ ที่จ่าย หรือการดำเนินการอื่นๆ ที่กฎหมายกำหนด
- เพื่อมีส่วนร่วมในกิจกรรมอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์และบริการของบริษัท
การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
เพื่อการให้บริการ ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ บริษัทอาจมีความ จำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ ใช้บริการ ในกรณี ดังนี้
- บริษัทอาจมีความจำเป็นเปิดเผยให้แก่ผู้ให้บริการภายนอกของบริษัท ที่ได้รับการว่าจ้างจาก บริษัทให้ช่วยเหลือสนับสนุนการให้บริการของบริษัท เช่น ผู้ให้บริการ Hosting / Cloud / Server ที่ปรึกษา ผู้รับจ้างให้บริการ ผู้รับ จ้างขนส่ง รวมถึงผู้ให้บริการภายนอกที่ให้บริการประเมินการบริการของบริษัท เช่น Google Analytics ทั้งนี้บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลเฉพาะเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
- บริษัทอาจเปิดเผยด้วยการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานไว้ในระบบระบบคอมพิวเตอร์ที่ใช้บริการ
- บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูล ด้วยความจำเป็นเพื่อประโยชน์ในการปกป้องและต่อสู้สิทธิของบริษัท หรือเพื่อการป้องกันและตรวจสอบลักษณะการกระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการของบริษัท โดยผู้ใช้บริการ ในลักษณะต่างๆ โดยบริษัทจะดำเนินการดังกล่าวเท่าที่จำเป็น เท่านั้น
- ในกรณีที่บริษัทมีหน้าที่ตามกฎหมาย หรืออยู่ภายใต้บังคับคำพิพากษา หรือคำสั่งของ หน่วยงานราชการ บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลให้แก่ หน่วยงานดังกล่าว เพื่อ เป็นการปฏิบัติตามหน้าที่ที่มีตามกฎหมาย
Cookies ที่บริษัทใช้ในการให้บริการ
Cookies คือ text files ที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้บริการ ใช้เพื่อจัดเก็บรายละเอียดข้อมูล log การ ใช้งานอินเตอร์เน็ต หรือพฤติกรรมการใช้บริการของผู้ใช้บริการ ทั้งนี้ เพื่อรับประกันประสิทธิภาพใน การให้บริการของบริษัทแก่ผู้ใช้บริการ บริษัทมีความจำเป็นต้องใช้คุกกี้หลายประเภทเพื่อจุดประสงค์ ต่างกันไป ดังที่ระบุต่อไปนี้
- คุกกี้ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง (Necessary Cookies)
คุกกี้ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งช่วยให้บริษัทสามารถนำเสนอประสบการณ์ที่ดีที่สุดเมื่อผู้ใช้งานเข้าถึงและสำรวจเว็บไซต์ของบริษัทและใช้งานคุณสมบัติต่างๆ ตัวอย่างเช่น คุกกี้เหล่านี้แจ้งให้บริษัททราบว่าผู้ใช้งานได้ทำการสร้างบัญชีและได้ลงชื่อเข้าใช้บัญชีนั้นเพื่อเข้าถึงเนื้อหา
- คุกกี้เพื่อการทำงานของเว็บไซต์ (Functionality Cookies)
คุกกี้เพื่อการทำงานของเว็บไซต์ช่วยให้บริษัทดำเนินการเว็บไซต์และบริการของบริษัทตามตัวเลือกที่ผู้ใช้งานเลือก ตัวอย่างเช่น บริษัทจะจดจำชื่อผู้ใช้งานของผู้ใช้งานและวิธีที่ผู้ใช้งานปรับแต่งเว็บไซต์และบริการสำหรับการเยี่ยมชมครั้งต่อไป
- คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์/เพื่อประสิทธิภาพ (Analytical Cookies)
คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้บริษัทและการบริการของบุคคลที่สามสามารถรวบรวมข้อมูลที่รวบรวมเพื่อวัตถุประสงค์ทางสถิติเกี่ยวกับวิธีที่ผู้เยี่ยมชมของบริษัทใช้งานเว็บไซต์ คุกกี้เหล่านี้จะไม่มีข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ และที่อยู่อีเมล และจะใช้เพื่อช่วยให้บริษัทปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของผู้ใช้งาน
- คุกกี้โซเชียลมีเดีย (Social Media Cookies)
คุกกี้ของบุคคลที่สามจากเว็บไซต์สื่อสังคมออนไลน์ (เช่น Facebook, Twitter และอื่น ๆ ) เพื่อช่วยให้บริษัทติดตามผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ เมื่อพวกเขาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัท โดยใช้เครื่องมือในการติดแท็กที่จัดเตรียมไว้โดยสื่อสังคมออนไลน์เหล่านั้น
แม้ว่าการใช้คุกกี้จะมีประโยชน์ในการเสริมประสิทธิภาพในการให้บริการ และการทำงานให้บริการ ของบริษัท แต่หากผู้ใช้บริการต้องการ ผู้ใช้บริการสามารถลบการตั้งค่าคุกกี้บน Browser ของตน เองได้ แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้บริการต้องรับทราบว่า การดำเนินการดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อประ สิทธิภาพในการทำงานให้บริการของบริษัทได้ในบางส่วน ตามจุดประสงค์การทำงานของคุกกี้ที่ระบุไว้
คำรับประกันการดำเนินมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยในข้อมูลที่เหมาะสม
บริษัทรับประกันจัดให้มีมาตรการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อป้องกัน การเข้าถึง การใช้ การเปลี่ยนแปลง การแก้ไข หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดย มิชอบ นอกจากนี้ บริษัทได้กำหนดแนวปฏิบัติภายในเพื่อกำหนดสิทธิในการเข้าถึงหรือการใช้ข้อมูล ส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อรักษาความลับ และความปลอดภัยของข้อมูล ทั้งนี้ บริษัทจะจัดให้มีการทบทวนมาตรการดังกล่าวเป็นระยะเพื่อความเหมาะสม ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
สิทธิของเจ้าของข้อมูล
บริษัทรับทราบ และเคารพสิทธิตามกฎหมายของผู้ใช้บริการ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล ของผู้ใช้งานผู้ใช้บริการ ซึ่งได้แก่ สิทธิ ดังนี้
- สิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงสิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลดังกล่าวให้ เป็นปัจจุบันและถูกต้อง
- สิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่บริษัททำให้ข้อมูลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้ งานโดยทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ รวมถึง สิทธิขอให้ส่งหรือ โอน ข้อมูลรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น
- สิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
- สิทธิขอให้ลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ เมื่อข้อมูลนั้นหมดความจำเป็นหรือเมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลถอนความยินยอม
- สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ ในกรณีเมื่อเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องลบ หรือ เมื่อข้อมูลดังกล่าวหมดความจำเป็น
- สิทธิถอนความยินยอม ในการประมวลผลข้อมูลที่ผู้ใช้บริการเคยให้ไว้
ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการสามารถติดต่อมายังบริษัท เพื่อขอใช้สิทธิข้างต้นได้ ตามรายละเอียดการติดต่อที่ บริษัทได้กำหนดไว้ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ และบริษัทจะพิจารณา และแจ้งผลการพิจารณาการ ขอใช้สิทธิ ให้ผู้ใช้บริการทราบภายใน 30 วันนับแต่วันที่บริษัทได้รับคำร้องขอดังกล่าว
ช่องทางการติดต่อ
รายละเอียดผู้ควบคุมข้อมูล
ชื่อ: บริษัท โคเด็กซ์ ดิจิตอล พาร์ทเนอร์ จำกัด
สถานที่ติดต่อ: เลขที่ 5 ซอยสุคนธสวัสดิ์ 3 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ 10230
ช่องทางการติดต่อ: 02-114-7246 ต่อ 1
อีเมล: contact@codex.co.th